มลพิษทางอากาศอันตรายที่คุณคาดไม่ถึง
มลพิษทางอากาศในหลายประเทศกำลังอยู่ในจุดที่น่าเป็นห่วงและส่งผลกระทบต่อประชากรโดยตรง ล่าสุดมีงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า มลพิษทางอากาศมีผลต่ออัตราการเพิ่มขึ้นของโรคมะเร็ง โดยพบในเพศหญิงที่มีความเสี่ยงเสียชีวิตจากโรงมะเร็งเต้านมสูงถึง 80 เปอร์เซนต์
นักวิจัยจาก University of Birmingham และ University of Hong Kong เปิดเผยผลการศึกษาความสัมพันธ์ของมลภาวะทางอากาศต่อความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง โดยทำการศึกษาจากประชากรในฮ่องกงจำนวน 65,000 คนเป็นเวลามากกว่า 13 ปี พบว่า 80 เปอร์เซนต์ของประชากรหญิงมีความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งเต้านมและ 36 เปอร์เซนต์ของประชากรชายมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งปอด ซึ่งความเสี่ยงดังกล่าว มาจากมลพิษทางอากาศที่เราหายใจเข้าไปในแต่ละวัน
ผลวิจัยนี้ยังสอดคล้องกับงานวิจัยจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ที่มีการระบุว่า มลพิษทางอากาศที่ก่อให้เกิดมะเร็งนั้น มาจากการรับไฮโดรคาร์บอนและโลหะหนักที่กระจายอยู่ในชั้นบรรยากาศ ซึ่งมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ที่ผ่านเข้าสู่ร่างกายผ่านระบบทางเดินหายใจ
งานวิจัยนี้ยังนำไปสู่การศึกษาในประเทศอื่นๆในเรื่องมลพิษทางอากาศและอัตราการเพิ่มขึ้นของการเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ยังสรุปว่าอาหารที่ดีและการออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้
แอร์วิชวล เว็บไซต์ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ เผยผลการจัดอันดับ ณ เวลา 16.45 น. วันที่ 13 ม.ค.นี้ ให้กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทยติดอันดับ 34 เมืองที่มีคุณภาพอากาศเลวร้ายที่สุดในโลก ขณะที่เชียงใหม่มีอากาศเลวร้ายที่สุดอันดับ 38 ของโลก
ส่วนเมืองใหญ่หรือเมืองหลวงของประเทศต่างๆที่มีคุณภาพอากาศเลวร้ายมากที่สุด 10 อันดับประกอบด้วย
อันดับ 1 นิวเดลี ประเทศอินเดีย
อันดับ 2 เมืองอู๋ฮั่น ประเทศจีน
อันดับ 3 เมืองอูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย
อันดับ 4 โกลกัตตา ประเทศอินเดีย
อันดับ 5 กาฐมัณฑุ ประเทศเนปาล
อันดับ 6 พอร์ท ฮาร์คอร์ท ประเทศไนจีเรีย
อันดับ 7 เมืองเสิ่นหยาง ประเทศจีน
อันดับ 8 เทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล
อันดับ 9 ธากา ประเทศบังกลาเทศ
อันดับ 10 เมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน
อันดับ 34 กรุงเทพฯ ประเทศไทย
อันดับ 38 เชียงใหม่ ประเทศไทย
ก่อนหน้านี้ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ประเทศไทย) องค์กรรณรงค์อิสระระดับโลก ทวีตช่วงเช้าวันเดียวกันอ้างข้อมูลเว็บไซต์แอร์วิชวลว่า กรุงเทพมหานครติดอันดับ 9 เมืองใหญ่ที่คุณภาพอากาศเลวร้ายที่สุดในโลก
สำหรับสถานการณ์คุณภาพอากาศที่ไม่ค่อยดีนักของกรุงเทพฯ และปริมณฑล เริ่มมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินค่ามาตรฐานมาตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 20 ธ.ค. 2561 บางวันที่มีฝนตกลงมาชะล้างก็ทำให้คุณภาพอากาศกลับมาดีขึ้นบ้าง แต่จนถึงขณะนี้สถานการณ์คุณภาพอากาศในช่วงหน้าหนาว ที่อากาศปิด ลมนิ่งเช่นนี้ยังคงต้องติดตามเป็นรายวัน
ข้อแนะนำในการปฏิบัติตัวของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ฝุ่นละออง PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ควรลดระยะเวลาในการทำกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 ขณะอยู่กลางแจ้ง หากมีอาการผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์ ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้มีโรคประจำตัว ดังต่อไปนี้ โรคทางเดินหายใจ, โรคเยื่อบุตาอักเสบ, โรคผิวหนัง, โรคหัวใจและหลอดเลือด
ข้อแนะนำสำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง
- พักผ่อนอยู่ในบ้าน
- เตรียมยาให้พร้อม
- ใช้หน้ากากกันฝุ่น
- รีบพบแพทย์ หากมีอาการ
สำหรับประชาชนทั่วไป ควรลดระยะเวลาออกกำลังกาย หรือทำงานหนักกลางแจ้ง หมั่นสังเกตอาการหากเกิดอาการแสบคอ แน่นหน้าอก หายใจติดขัด รีบพบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ
สามารถตรวจสอบดัชนีคุณภาพอากาศ เพื่อดูคุณภาพอากาศคลิกที่นี่
กรุงเทพมหานคร ยังต้องเผชิญกับอากาศและฝุ่นละออง PM2.5 เป็นพิษจำนวนมากต่อไปอีก 2-3 เดือน และภาวะนี้เองที่ทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบได้ และสามารถเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งตามมา งานวิจัยต่อไปนี้แสดงให้เห็นว่า เซซามิน (Sesamin) สามารถช่วยลดการอักเสบที่จะนำไปสู่การเป็นมะเร็งปอดได้ โดยการไปยับยั้งที่กลไก COX2 ซึ่งเป็นกลไกเดียวกับยา
ฟังบางส่วนของคลิปบรรยาย จาก ศ.ดร. ปรัชญาคงทวีเลิศ ว่าด้วยเรื่องงานวิจัยเซซามิน (sesamin) และ เฮสเพอริดิน (Hesperidin) มีส่วนช่วยปกป้องคุณจากอันตรายของมลพิษทางอากาศได้อย่างไร